อนุมัติแล้ว เราเที่ยวด้วยกัน สามารถใช้ในจังหวัดตัวเองได้แล้ว ขยายเวลาถึงปีหน้า
โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สามารถใช้ในจังหวัดตัวเองได้แล้ว
ครม.ไฟเขียว ‼️ “เราเที่ยวด้วยกัน” ใช้ในจังหวัดตัวเองได้แล้ว พร้อมขยายเวลาใช้สิทธิ์ออกไปถึง 31 ม.ค. 64
12 ต.ค. 63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้ขยายเวลาการใช้สิทธินโครงการเราเที่ยวด้วยกันออกไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 64 และยังได้อนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถใช้บริการโรงแรมที่พัก และใช้ E-Voucher สำหรับค่าอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้า O-TOP ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้แล้ว
สามารถใช้บริการโรงแรมที่พัก และใช้ E-Voucher สำหรับค่าอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้า O-TOP ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้แล้ว
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม
ระยะเวลาโครงการ
ระหว่าง 1 กรกฎาคม – 31 มกราคม 2564
*โรงแรมหรือที่พักสามารถทำการจองห้องพักให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ ตามวันที่ขยายโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค 2563 เวลา 06.00น. เป็นต้นไป
รายละเอียดของโครงการ
สนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก
- รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน
- จำกัดสิทธิคนละไม่เกิน 10 ห้อง หรือ 10 คืน (เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป)
- เมื่อจองที่พักแล้ว ไม่สามารถยกเลิกการจองหรือเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว
- รัฐบาลจะสนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 900* บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน เมื่อ check-in โรงแรมสำเร็จ
*วันจันทร์-พฤหัสบดี รับ 900 บาท และ วันศุกร์-อาทิตย์ รับ 600 บาท - จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17:00 น. ของวัน check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23:59 น. ของวัน check-out
- คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง
สนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน
- ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร (เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป)
- ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง
- ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกันจังหวัดที่จองโรงแรม (กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ กับเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม)
- วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการไม่เกิน 5 วัน และการเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 มกราคม 2564
* ประชาชนจะได้รับสิทธิเมื่อลงทะเบียนสำเร็จ และใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยว ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ