“มะม่วงหาวมะนาวโห่” พืชที่กำลังมาแรงมาก ทำกินได้หลายแบบ สมุนไพรบำบัดหลายโรค
พืชที่กำลังมาแรงในขณะนี้อย่างมะม่วงหาวมะนาวโห่ ปลูกง่าย โตไว แถมสรรพคุณทางสมุนไพรเพียบ ผลมีสีแดงสามารถทานสดได้ มีรสชาติเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีชื่อเรียกหลายชื่อในแต่ภูมิภาค เช่น มะนาวไม่รู้โห่ มะนาวโห่ ต้นหนามแดง
ทานผลสด 5-7 ลูก เลือกลูกที่มีสีดำจะเป็นผลสุกรสชาติไม่เปรี้ยวมาก ออกหวานๆ ทานง่าย ช่วยเรื่องลมหมุนเวียนดี ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ช่วยซ่อมแซมร่างกาย
หรือจะนำผลอ่อนมาทำเป็นยำ ใส่พริกป่น เกลือ น้ำปลา น้ำตาล ปรุงรสตามใจชอบ ออกเปรี้ยวหวานเผ็ด รสชาติกลมกล่อมก็อร่อยไปอีกแบบ เห็นรูปแล้วน้ำลายสอเลย
ทำสูตรน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่น้ำผึ้งโซดา
ส่วนผสม
– มะม่วงหาวมะนาวโห่(ใส่ลูกสุกด้วยสีจะเข้มสวย) 1กก
– น้ำตาลทรายแดงครึ่งกิโลกรัม
– ดอกเกลือทะเล (สำหรับปรุงรส) 1 ช้อนชาสำหรับต้ม
– เกลือ (สำหรับแช่มะม่วงหาวมะนาวโห่) 1 ช้อนแกง
– อบเชย ( ถ้าไม่ชอบกลิ่นก็ไม่ต้องใส่ ) 3 แท่ง
– โซดา
– น้ำผึ้ง
– น้ำแข็ง
วิธีทำ
1. นำมะม่วงหาวมะนาวโห่ผ่าครึ่งเอาเมล็ดออกไปแช่ไว้ในน้ำ น้ำเปล่า 1 กะละมัง ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ( เพื่อล้างยางออก ถ้าล้างยางออกไม่หมดจะมีรสชาติฝาดคอ )
2. ตั้งหม้อต้มน้ำใส่ดอกเกลือ 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง แท่งอบเชย ( สามารถเพิ่มลดความหวานได้ตามใจชอบ แต่ทานหวานน้อยจะดีต่อสุขภาพมากกว่า )
3. พอน้ำเดือดก็นำมะม่วงหาวมะนาวโห่ที่แช่น้ำเกลือไว้มาเทใส่ ต้มไปอีกสักพักจนเดือด แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะได้น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่
4. เมื่อเย็นแล้วนำมาเทใส่แก้วโดยใส่ น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ ครึ่งแก้ว โซดาครึ่งแก้ว น้ำแข็ง และ น้ำผึ้ง ตามใจชอบ
รสชาติหวาน เย็น ซ่า ชุ่มคอ ดื่มแก้กระหายคลายร้อน พร้อมทั้งมีสรรพคุณทางสมุนไพรเพียบ
สูตรดองในโหลเป็นน้ำหมักสมุนไพร
โดยเก็บผลอ่อนสีแดง เด็ดขั้วทิ้ง หั่นครึ่งเอาเมล็ดออก นำไปแช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้ยางที่ติดอยู่ที่ผลหลุดออก แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
วิธีการหมัก ใช้ผล 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม น้ำผึ้ง 350 ซีซี หมักในโหลแก้วไว้ 1 เดือน หลังจากนั้นเติมน้ำ 5 ลิตร แล้วหมักต่ออีก 2 เดือน จนครบ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย ดื่มวันละ 1 เป๊ก ร่างกายจะปรับสภาพจนสมดุลและแข็งแรงขึ้น
สรรพคุณของผลมะม่วงหาวมะนาวโห่
– มีวิตามินซีสูง
– มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
– ช่วยบรรเทาอาการ โรคเกาต์ โรคมะเร็ง โรคถุงลม โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น
– ขับสารพิษ ขจัดสิ้งสกปรกในระบบทางเดินอาหาร ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
– ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ และ บรรเทาอาการไอ
– ช่วยรักษา และ บรรเทาอาการโรคไทรอยด์
– ช่วยดับพิษร้อน แก้ร้อนใน เจ็บในปาก
คำเตือน : หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน