เห็นด้วยเลย ! คนที่กล้าให้คุณยืมเงินไม่ใช่ว่าเพราะเขาโง่.. แต่ให้คิดว่าเขาคือ “ผู้อุปถัมภ์ของคุณ” !?
ไปอ่านเจอมาบทความนี้ดีมากๆ ยืมอะไรยากที่สุด? “ยืมเงิน” นั่นคือคำพูดของ “ลีกาซิง” มหาเศรษฐีฮ่องกง เนื้อหามีอยู่ว่า คนที่กล้าให้คุณยืมเงิน คือผู้อุปถัมภ์ของคุณ คนประเภทนี้มีน้อยมากแล้วในสังคมทุกวันนี้
หากคุณมีวาสนาได้พบเจอ ต้องสำนึกคุณไปชั่วชีวิต ตอนที่คุณลำบากเรื่องเงิน แล้วมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยพยุงคุณไว้ ไม่ใช่ว่าเพราะเขามีเงินมาก แต่เพราะน้ำใจของเขาที่อยากฉุดคุณให้ขึ้นจากหุบเหวของความลำบากที่ให้คุณยืมนั้นมันไม่ใช่เงิน แต่มันคือความเชื่อใจความไว้ใจและกำลังใจ! เพราะเชื่อในศักยภาพของคุณ เพื่อให้คุณพ้นจากความลำบากในตอนนั้น
หวังว่าคุณทั้งหลายที่เป็นคนยืมเงินอย่าได้เหยียบย่ำคำว่า “น้ำใจ” ที่ใครเขาให้มา เพราะคำว่า “เสียสัจจะ” คือการล้มละลายที่สาหัสที่สุดในชีวิตคนเรา ต้องระวังไว้ให้ดี มิตรสหายที่จริงใจคือทรัพย์สมบัติที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต
ในขณะเดียวกัน ขอให้คุณพึงระลึกไว้เสมอว่า คนที่ชอบจ่ายเงินก่อน ไม่ใช่เพราะเขาอวดว่ามีเงินมาก แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่ามิตรภาพสำคัญกว่าราคาอาหารในมื้อนั้น คนที่ยอมยกผลประโยชน์ให้คุณมากหน่อยตอนร่วมหุ้น ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เป็นเพราะเขารู้จักแบ่งปัน คนที่ยอมทำงานมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เป็นเพราะเขาอยากรับผิดชอบในหน้าที่และเขารักองค์กร
คนที่ยอมขอโทษก่อนเวลาทะเลาะกัน ไม่ใช่เพราะเขาผิด แต่เป็นเพราะเขายังแคร์ความรู้สึกของคุณอยู่ คนที่ยอมช่วยเหลือคุณไม่ว่าเรื่องใด ไม่ใช่เพราะเขาเป็นหนี้คุณ แต่เป็นเพราะเขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้ คนอื่นช่วยเหลือคุณนั่นเป็นเรื่องของน้ำใจ ที่ไม่ช่วยเหลือคุณนั่นก็เป็นเรื่องของเขา
คนเป็นจำนวนมากแสดงท่าทางโกรธแค้นที่คนอื่นไม่ยอมให้ยืมเงิน ทั้งที่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นเขาเลย คนบางคนกลับทำตัวฉลาด ยืมแล้วไม่ยอมคืน! คนประเภทนี้ สักวันหนึ่งจะหมดค่าในสายตาของผู้คน หากการได้พบการได้รู้จักกันคือวาสนา การจะคบหากันให้ยาวนานต้องอาศัยสัจจะและความจริงใจ
ข้อคิดสอนใจในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยากแชร์มาให้ทุกท่านได้อ่าน อ่านจบแล้วคุณอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดไปตลอด..