ข่าวทั่วไปข่าวบันเทิงข่าวสารท่องเที่ยวความรู้ความรู้ทั่วไป

คนเป็นหนี้เฮลั่น ! รัฐเปิด “คลินิกแก้หนี้” เริ่มแล้ว…ช่วยปลดหนี้สูงสุด 2 ล้าน/ราย (รายละเอียด)

ใครที่กำลังเป็นหนี้หัวบาน หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต นี่เป็นหนทางที่ทำให้คุณสามารถมีชีวิตรอด และได้ต่อลมหายใจอีกครั้ง เพราะรัฐบาลกำลังมีโครงการใหม่ที่สนับสนุนการปลดหนี้ด้วย “คลีนิคแก้หนี้” หากคุณสนใจตามมาดูรายละเอียดได้เลย

คลินิกแก้หนี้ คืออะไร?

คลินิกแก้หนี้ หรือ “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน” เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนรายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้มีโอกาสปลดหนี้

โดยมีบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service เรียกได้ว่า “หนี้บัตรทบ จบที่เดียว”

เริ่มเมื่อไร?

ธนาคารแห่งประเทศไทย จับมือกับสมาคมธนาคารทั้งไทยและต่างชาติ เปิดตัวคลินิกแก้หนี้เป็นครั้งแรก เริ่ม 1 มิถุนายน นี้

คุณสมบัติของลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

– ต้องเป็นบุคคลที่มีรายได้ประจำ

– ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี (ต้องไม่เกินตลอดอายุที่อยู่ในโครงการ)

– มีหนี้รวมห้ามเกิน 2,000,000 บาท

– มีหนี้กับธนาคารมากกว่า 2 แห่งใน 17 ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

– จะต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่ 4% – 7% ต่อปีเท่านั้น

– มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกิน 3 เดือน กับ 2 ธนาคารขึ้นไป และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ มีธนาคารที่เข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ ทั้งหมด 17 ธนาคาร ประกอบด้วย

– ธนาคารกรุงเทพ

– ธนาคารไทยพาณิชย์

– ธนาคารกสิกรไทย

– ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

– ธนาคารกรุงไทย

– ธนาคารทหารไทย

– ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย

– ธนาคารไอซีบีซี

– ธนาคารเกียรตินาคิน

– ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์

– ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย)

– ธนาคารธนชาต

– ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย

– ธนาคารทิสโก้

– ธนาคารยูโอบี

– ซิตี้แบงก์

– แบงก์ออฟไชน่า

เงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

– ลูกหนี้ต้องไม่ก่อหนี้ใหม่เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี

– พร้อมเรียนรู้การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี

– เสียดอกเบี้ยเฉลี่ย 4-7% ต่อปี (ตามช่วงรายได้) ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ

ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.debtclinicbysam.com หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ Call Center (โทรติดต่อ) 0 2610 2266

ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร และยืนยันข้อมูลผ่านเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 3 : รอเจ้าหน้าที่โครงการติดต่อกลับ เพื่อนัดหมาย วัน เวลา เข้าพบที่สำนักงาน

ขั้นตอนที่ 4 : จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับประกอบการพิจารณา ( 10 รายการ)เอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการและพิจารณารายได้

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ
-สำเนาทะเบียนบ้าน
-ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี)
-เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จากเครดิตบูโร
-สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3-6 เดือน
-เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
-บัตรเงินบำนาญ (กรณีเป็นข้าราชการ)
-ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย (กรณีเป็นข้าราชการ)
-หลักฐานการแสดงรายได้อื่น เช่น สัญญาให้เช่า สัญญาว่าจ้าง ฯลฯ
-ใบแจ้งหนี้ / เอกสารแสดงความเป็นหนี้- ขั้นตอนที่ 5 : พบเจ้าหน้าที่โครงการที่สำนักงานโครงการ เพื่อพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้

ขั้นตอนที่ 6 : เจ้าหน้าที่โครงการจะนัดหมาย เพื่อลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อได้รับการยืนยันจากธนาคารเจ้าหนี้ให้เข้าร่วมโครงการ

อัตราดอกเบี้ยการผ่อนชำระตามช่วงรายได้

– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 4%

– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000–50,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 5%

– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000–100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 6%

– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 7%

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับ

ถ้าเข้าร่วมโครงการนี้ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ คือ

– ไม่ถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย

– ลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน เพราะชำระเฉพาะเงินต้นค้างชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรนไม่เกิน 7% ตามช่วงรายได้ ระยะเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 10 ปี

– เป็นการรวมหนี้ และผ่อนชำระในที่เดียว

– รู้จักวางแผนทางการเงินที่ดี

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการที่ www.คลินิกแก้หนี้.com, www.debtclinicbysam.com

และ 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.

3 thoughts on “คนเป็นหนี้เฮลั่น ! รัฐเปิด “คลินิกแก้หนี้” เริ่มแล้ว…ช่วยปลดหนี้สูงสุด 2 ล้าน/ราย (รายละเอียด)

  • แอนนา ฮาเชมี

    เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะสามีเป็นหนี้บัตรเครดิต100000มีหนี้โอดี800000และหนี้บ้านอีกล้านนิดๆรวมกันแล้วไม่เกินสองล้านสบายเลยค่ะได้ผ่อนที่เดียวสะดวกสุดๆค่ะ

  • วันทนา เด็กหลี

    คือถ้าโดนฟ้องร้องแล้วไม่ช่วยอย่าวนั้นหรอ
    แล้วคนที่โดนฟ้องเคยขึ้นศาสอย่างเราจะทำงัย
    เปนหนี้ต่อไปเพราะภาระมากเหลือเกิน เงินน้อยแถบไม่พอจ่ายหนี้…เฮ้อ…

ใส่ความเห็น