ธรรมะก่อนนอน “วิธีมองคน” พิจารณาตำรายาแผนโบราณของไทย
“วิธีมองคน” พิจารณาตำรายาแผนโบราณของไทย
ธรรมะก่อนนอน เรื่อง วิธีมองคน >>> ถ้าพิจารณาตำรายาแผนโบราณของไทย
จะเห็นได้ว่าต้นไม้ทุกชนิด หากนำมาศึกษาวิจัยอย่างดีแล้ว จะมีสรรพคุณนำมาเป็นตัวยาได้ โดยแต่ละชนิดต่างก็มีสรรพคุณแตกต่างกันไป กล่าวคือ บางต้นสรรพคุณอยู่ที่เปลือก บางต้นสรรพคุณอยู่ที่ใบ บางต้นสรรพคุณอยู่ที่แก่น บางต้นสรรพคุณอยู่ที่ราก บางต้นสรรพคุณอยู่ที่เมล็ด บางต้นมีสรรพคุณทั้งห้า คือทุกส่วนของต้นไม้นั้นล้วนมีสรรพคุณเป็นยาทั้งสิ้น เป็นต้น เมื่อนำจุดดีของไม้แต่ละชนิดมาปรุงรวมกันเข้า ก็จะได้ยาที่มีสรรพคุณรักษาโรคร้ายต่างๆ ให้หายได้ แต่การค้นหาจุดดีที่เป็นตัวยาทุกส่วนในต้นเดียวกัน นั้น ย่อมเป็นการยาก
คนเราก็เช่นกัน เมื่อพิจารณาโดยรอบคอบ จะเห็นว่าแต่ละคน ล้วนมีดีอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น เพียงแต่จุดดีของเขา แตกต่างกันไป กล่าวคือ บางคนมีการศึกษาดี บางคนพูดดี บางคนทำงานดี บางคนมีความซื่อสัตย์ หรือบางคน มีความกล้าหาญ เป็นต้น แต่การที่จะหา ความดีทุกอย่าง จากคนๆ เดียว ย่อมเป็นเรื่องยาก การตระหนักถึงข้อเท็จจริงได้ เช่นนี้ จะช่วยทำให้การดำเนินชีวิตในสังคม เป็นไปอย่างถูกต้อง เพราะจะทำให้ เกิดผลดี ๓ ประการคือ
๑. ในฐานะผู้ปกครอง หรือผู้บริหาร จะทำให้สามารถดูคนออกและใช้คนเป็น คือ ใช้ให้เหมาะสมกับงาน แต่ละประเภท ดุจแพทย์ผู้ชำนาญ สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรชนิดต่างๆ ได้ครบถ้วน
๒. จะเป็นเหตุให้เกิดเมตตา และให้อภัยเมื่อผู้อื่นทำผิดพลาด คือ เลิกล้มความคิดให้ผู้อื่นเป็นไปตามความต้องการของตน
๓. เป็นเหตุให้มีสติย้อนระลึกถึงตนเองว่า มีฐานะเช่นเดียวกับผู้อื่น คือมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี และคิดปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นได้ตามลำดับ
การ “มองผู้อื่นในแง่ดี” มากเกินไป อาจเป็นความประมาท และเกิดความเสียหายได้ แต่การ “มองแง่ดีของผู้อื่น” นั้น มีประโยชน์อย่างเดียว เพราะจะทำให้เข้าใจ เพื่อนมนุษย์ได้ถูกต้องขึ้น และสามารถหยิบ “แง่ดี” ของผู้อื่นมาใช้ให้เกิด ประโยชน์แก่ตนได้ ดังคำภาษิตของท่าน พุทธทาส ภิกขุที่กล่าวไว้ว่า…..
“จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว
อย่าไปเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง”