4 สิ่งที่ควรเช็คหลังจากเดินทางไกล เพื่อตรวจสอบสภาพรถยนต์ ไม่เช่นนั้นอาจเสียเงินซ่อมใหญ่เกินจำเป็น
4 สิ่งที่ควรเช็คหลังจากเดินทางไกล เพื่อตรวจสอบสภาพรถยนต์ ไม่เช่นนั้นอาจเสียเงินซ่อมใหญ่เกินจำเป็น
ขอแนะนำ 4 สิ่งที่ควรเช็คหลังกลับจากเดินทางไกล เพื่อตรวจสอบสภาพรถยนต์ในระยะเบื้องต้น ก่อนจะลุกลามบานปลายจนต้องเสียเงินซ่อมเกินความจำเป็น
1.เช็คของเหลวในห้องเครื่อง
ควรเช็คระดับของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ รวมถึงน้ำในหม้อน้ำและหม้อพัก ระดับน้ำและน้ำมันต่างๆ ไม่ควรพร่องจากก่อนเดินทางมากนัก และต้องไม่มีสีดำเข้มผิดปกติ เช็คสภาพห้องเครื่องว่าไม่มีคราบน้ำมันเยิ้ม รั่วซึม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากซีลเสื่อมสภาพ
2.เช็คช่วงล่างและระบบกันสะเทือน
ถนนเมืองไทยขึ้นชื่ออยู่แล้้วเรื่องความขรุขระ แถมยังมีหลุมบ่อให้ระทึกใจอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ดังนั้น จึงควรเช็คระบบช่วงล่างว่าไม่มีอะไรเสียหาย วิธีง่ายๆเพียงก้มดูโช๊คอัพทั้ง 4 ต้น ว่าไม่มีคราบน้ำมันไหลเยิ้มออกมา รวมถึงลองเช็คศูนย์ล้อด้วยการปล่อยพวงมาลัยขณะรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากรถยังคงวิ่งไปตรงๆ ก็ไม่มีปัญหา
นอกจากนั้น ให้คอยฟังเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่วง ว่ามีเสียงกึกกักแปลกๆบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะขณะหมุนพวงมาลัยและวิ่งผ่านทางขรุขระ
3.เช็คสภาพยางและล้อ
ยางรถยนต์เป็นอีกจุดสำคัญที่ต้องตรวจเช็ค เพราะอาจเผลอเหยียบตะปูโดยไม่รู้ตัว ซึ่งกรณีที่ยางแฟบให้เห็นต่อหน้าก็จับเปลี่ยนได้เลย แต่หากลมยางเพียงแค่ซึมอ่อนๆ ก็จะทำให้ความดันลมยางน้อยกว่าปกติ จนเป็นอันตรายหากวิ่งด้วยความเร็วสูง
4.เช็คสภาพตัวถังให้เรียบร้อย
หลังจากเดินทางเสร็จเรียบร้อย ลองเช็คสภาพสีรอบตัวถังว่ามีรอยขูดขีด หรือรอยกระเทาะจากหินดีดหรือไม่ รวมถึงคราบที่ล้างออกยาก เช่น ยางมะตอย หากพบก็ควรจัดการให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นรอยด่าง หรือสนิมในอนาคต
รู้แบบนี้แล้วลองกลับไปเช็ครถที่เรารัก เผื่อว่ามีอะไรเสียจะได้รีบแก้ไขทัน ไม่บานปลายนั่นเองครับ