ข่าวทั่วไปความรู้ทั่วไปสุขภาพสูตรอาหาร

รู้หรือไม่ !! อาหารที่ห้ามกินคู่กัน และ อะไรห้ามกินคู่กับอะไร .. พอรู้เหตุผลแทบตกใจ เพราะกินบ่อยมาก ๆ

ไข่ต้ม + เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน = ร่างกายได้รับธาตุเหล็กน้อยลง

สาเหตุ : คาเฟอีนจะจับตัวกับสารซัลเฟอร์ในไข่ต้ม  แล้วขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก หากต้องการกินร่วมกับไข่   ควรกินร่วมกับไข่ดาวจะดีกว่า

 

แอลกอฮอล์ + ทุเรียน = ร้อนในรุนแรง

สาเหตุ : เพราะว่าในทุเรียนมีซัลเฟอร์มาก  ทำให้เกิดความร้อนรุนแรงขึ้นในกระเพาะ ทำให้ช็อกได้

วิธีแก้ : ให้รีบดื่มน้ำเย็นจำนวนมากๆ  ถ้าอาเจียนออกมาได้ ก็จะทุเลาลง (ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำส่งแพทย์)
span style=”color: #ff0000;”>แอลกอฮอล์ + อาหารเผ็ด = ภูมิแพ้หรือเป็นความดันสูง

สาเหตุ :  เพราะทั้งแอลกอฮอล์และสารในพริก เร่งให้การไหลเวียนโลหิตมีมากขึ้น ผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือเป็นความดันสูง จึงต้องระวังเป็นพิเศษ (ทานสุรากับกับแกล้มเผ็ดๆ)

เหล้า + มัสตาร์ด = เกิดอาการแพ้

สาเหตุ : แอลกอฮอล์และสารให้รสเผ็ดในมัสตาร์ด ทำหน้านี้กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ดีเกินไป จนกระทั่งก่อให้เกิดอาการแพ้ ใครที่มีอาการแพ้ของบางอย่างอยู่แล้ว ต้องระวัง

ของทอด + แตงโม = ท้องเสีย

สาเหตุ : ของทอดเป็นอาหารอมน้ำมันมาก หากกินร่วมกับแตงโม ซึ่งมีคุณสมบัติมีน้ำมาก ช่วยระบาย  และทำให้ภายในตัวเย็น จะทำให้ในกระเพาะมีทั้งน้ำมันและน้ำมาก รวมทั้งเส้นใยที่ช่วยระบาย ทำให้ท้องเสียได้ง่าย

ปู + ลูกพลับ = ท้องเสีย

สาเหตุ : ชาวจีนทราบดีว่า กินปูร่วมกับลูกพลับไม่ได้ เพราะอาหารทั้งสองนี้ มีคุณสมบัติ ทำให้ภายในตัวเย็นลง คือ ช่วยระบาย ใครที่จัดอยู่ในประเภทขี้หนาว ห้ามกินเด็ดขาด อาจท้องเสียรุนแรง

ปู + น้ำแข็งใส = ท้องเสีย

สาเหตุ : ปูมีคุณสมบัติทำให้ภายในตัวเย็นลง เมื่อกินร่วมกับน้ำแข็งใส (หรือไอศกรีม) จึงท้องเสียง่าย คนท้องเสียง่ายควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

เนื้อหมู + ไอศกรีม = ย่อยและดูดซึมยาก

สาเหตุ : เนื้อหมูเป็นโปรตีน ที่ต้องใช้เวลาย่อย คือย่อยยาก ยิ่งกินร่วมกับของเย็นๆ   เช่น ไอศกรีม จะทำให้กระเพาะเย็นและทำงานด้อยลง การกินอาหารสองอย่างนี้ร่วมกัน จึงเป็นการสร้างภาระให้กับกระเพาะ

ก๋วยเตี๋ยว + ข้าวสวย = อ่อนเพลีย อ้วนง่าย

สาเหตุ : ทั้งเส้นก๋วยเตี๋ยวและข้าวสวย เป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ร่างกายต้องใช้วิตามินบี 1 ในการย่อยอาหาร เมื่อกินคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งมาก หรือกินจนอิ่มแปล้ ร่างกายก็ต้องใช้วิตามินบี 1 ในการย่อยมาก ทำให้ขาดวิตามินดังกล่าว ผลของการขาดวิตามินบี 1 ก็คือ อ่อนเพลีย ง่วงนอน และอ้วนง่าย เป็นที่มาของ “หนังท้องตึง  หนังตาหย่อน”

น้ำแครอท + น้ำผัก = สูญเสียวิตามินซี

สาเหตุ : เอนไซม์ Ascorbinase ของแครอท ทำลายวิตามินซีที่อยู่ในผักต่างๆ ถ้าต้องการ ทำน้ำผัก ไม่ควรใส่แครอท ควรทำน้ำแครอตแยกต่างหากจะดีกว่า

มะเขือเทศ + แตงกวา = วิตามินซีถูกทำลาย

สาเหตุ : เอนไซม์ Ascorbinase ของแครอท ทำลายวิตามินซีที่อยู่ในผักต่างๆ ถ้าต้องการ ทำน้ำผัก ไม่ควรใส่แครอท ควรทำน้ำแครอตแยกต่างหากจะดีกว่า

หัวไช้เท้า + แครอท = ร่างกายได้รับวิตามินซีน้อยลง

สาเหตุ : ถ้ากินผักทั้งสองในรูปของผักสด เอนไซม์ในแครอทดิบ จะทำลายวิตามินซี ของหัวไช้เท้า

นม + อาหารที่มีเส้นใยสูง = ร่างกายได้รับแคลเซียมน้อยลง

สาเหตุ : เส้นใยมีหน้าที่ดูดซับไขมัน ถ้าดื่มนม เส้นใยก็จะจับแคลเซียมในนมก่อนขับถ่ายออกจากร่างกายด้วย ทำให้รับแคลเซียมไม่ดีพอ จึงควรเลี่ยงการดื่มนมร่วมกับ อาหารที่มีเส้นใยสูง หรือควรกินคนละช่วงเวลาจะดีกว่า

ชา กาแฟ (มีสารทันนิน) + ลูกพรุน = ได้ธาตุเหล็กจากลูกพรุนน้อย

สาเหตุ : ลูกพรุนมีธาตุเหล็กมาก แต่สารทันนินมีสรรพคุณขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก จึงไม่แนะนำให้กินร่วมกัน แต่แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้ 100 % ร่วมกับลูกพรุนจะดีกว่า

ปวยเล้ง + เบคอน = ร่างกายได้รับธาตุเหล็กน้อยลง อันตรายต่อสุขภาพ

สาเหตุ : กรดฟอสฟอริคในเบคอนเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก และแคลเซียม ในปวยเล้ง กรดไนตริกในปวยเล้งจะเปลี่ยนเป็นกรดดินประสิว หากกินร่วมกับเบคอน บางชนิด อาจก่อให้เป็นสารก่อมะเร็งตามมาภายหลังได้

น้ำส้มสายชู + ผักที่มีแคโรทีนมาก = สูญเสียแคโรทีน

สาเหตุ : น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ทำลายแคโรทีนในผัก ถ้าปรุงอาหารที่มีแคโรทีนสูง เช่น แครอท ไม่ควรใส่น้ำส้มสายชู

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความสุขภาพนี้ อาหาร ห้ามกินคู่กัน พอได้ความรู้ในการจับคู่การกินอาหารที่ไม่ควรนำมาคู่กันแล้วใช่ไหมครับ บทความสุขภาพเราเชื่อว่าของบางอย่างมันก็มีคุณสมบัติในตัวมัน เหมือนกับคน คนเราก็มีลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ไม่มีใครที่เหมือนกันเป๊ะ ถ้าเจอกัคนที่คุยกันถูกคอเมื่อไหร่ทุกอย่างก็ราบรื่นได้ง่าย แต่ถ้าไปพบเจอทำงานด้วยกับคนที่ทำให้มีผลเสียล่ะก็อย่างนั้นไม่ใครก็ใครได้ตายไปข้างนึงครับ ฉะนั้นทั้งสุขภาพและการคบเพื่อนมนุษย์ เราควรใส่ใจว่าสิ่งไหนเหมาะกับสิ่งไหน

ใส่ความเห็น